บทสวดมนต์ พระคาถาชินบัญชร พร้อมคำแปล

ประวัติ


พระคาถาชินบัญชร เป็นคาถาศักสิทธิ์ที่ตกทอดมาจากลังกา โดย ท่านเจ้าประคุณสทมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ค้นพบในคัมภีร์โบราณ และได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ เนื้อหาของพระคาถาชินบัญชร เป็นการสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ (รายละเอียดอยู่ในคำแปล)

อานิสงส์ของการสวดพระคาถาชินบัญชร


ผู้ใดสวดภาวนาเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัย ตลอดจนคุณไสยต่างๆ ได้

สวดตอนไหน


สวดตอนไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก แต่แนะนำให้สวดก่อนนอน ก่อนที่จะสวดบทแผ่เมตตาครับ

วิธีการสวด


ให้เริ่มจากตั้งนโม 3 จบ จากนั้นให้นึกถึงหลวงปู่โต แล้วตั้งจิตกล่าวคำอธิษฐาน แล้วจึงเริ่มสวดบทพพระคาถาชินบัญชร โดยสวดได้ทั้งแบบเต็ม และแบบย่อ

ตั้งนโม 3 จบ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นึกถึงหลวงปู่โตแล้วตั้งจิตอธิษฐาน

ปัตตะกาโม ลาภะ ปัตตัง ธะนะ กาเม ลาภะ ธะนัง

อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตะวา

เริ่มบทพระคาถาชินบัญชร แบบเต็ม


  1. ชะยาสะนากะตา พุทธา       เชตวา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง           เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
  2. ตัณหังกะราทะโย พุทธา     อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง       มัตถะเกเต มุนิสสะรา.
  3. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง         พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง       อุเร สัพพะคุณากะโร.
  4. หะทะเย เม อะนุรุทโธ            สารีปุตโต จะทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง    โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
  5. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง       อาสุง อานันทะ ราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม      อุภาสุง วามะโสตะเก.
  6. เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง        สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน           โสภิโต มุนิปุงคะโว
  7. กุมาระกัสสโป เถโร              มะเหสี จิตตะ วาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง       ปะติฏฐาสิคุณากะโร.
  8. ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ          อุปาลี นันทะ สีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา         นะลาเต ติละกา มะมะ.
  9. เสสาสีติ มะหาเถรา              วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอเตสีติ มะหาเถรา               ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเตเชนะ           อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
  10. ระตะนัง ปุระโต อาสิ             ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ         วาเม อังคุลิมาละกัง
  11. ขันธะโมระปะริตตัญจะ          อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ           เสสา ปาการะสัณฐิตา
  12. ชินา นานาวะระสังยุตตา         สัตตัปปาการะ ลังกะตา
    วาตะปิตตาทะสัญชาตา          พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.
  13. อะเสสา วินะยัง ยันตุ             อะนันตะชินะ เตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ          สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
  14. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ             วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
    สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ        เต มะหาปุริสาสะภา.
  15. อิจเจวะมันโต           สุคุตโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ           ชิตุปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ         ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ         ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต   จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.

คำแปล

  1. พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์
    ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ
    อริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์
  2. มี ๒๘ พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกรเป็นต้น พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น
  3. ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ
    พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง
    พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก
  4. พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจพระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา
    พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง
  5. พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา
    พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย
  6. มุนีผู้ประเสริฐคือพระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง
    อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
  7. พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ
    มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ
  8. พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี
    พระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก
  9. ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส
    เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วน
    รุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่
  10. พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้าพระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา
    พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง
  11. พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร
    เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ
  12. อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้
    ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง
    สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น
  13. ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ
    เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม
    แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน
    อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น
    เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ
  14. ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น
    จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร
    ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล
  15. ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม
    จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า
    ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพ
    แห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ 

บทพระคาถาชินบัญชร แบบย่อ

ชินะปัญชะระ สัพปุริวาณัง รักขะตุสัพพะทา (สวด 10 จบ)

แสดงความคิดเห็น