อานิสงจากการนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ

อานิสงจากการนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ

หากได้กราบไหว 1 ครั้งแห่งการเข้าสักการะนมัสการ

เป็น บุญ และมงคล

หากได้กราบไหว 2 ครั้งแห่งการเข้าสักการะนมัสการ

ช่วยนำพาวาสนารุ่งเรือง

หากได้กราบไหว 3 ครั้งแห่งการเข้าสักการะนมัสการ

ก่อเกิดบารมีแผ่ไพศาล

หากได้กราบไหว 5 ครั้งแห่งการเข้าสักการะนมัสการ

ได้ดั่งใจปรารถนา

หากได้กราบไหว 7 ครั้งแห่งการเข้าสักการะนมัสการ

ผู้คิดร้ายเข้าไม่ถึงตัว

หากได้กราบไหว 9 ครั้งแห่งการเข้าสักการะนมัสการ

เป็นปิยะสิทธิ และ สรรพสิทธิตลอดไป



บทสวดขอพร มหาเทพตรีมูรติ

บทสวดขอพร

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ)

สาธุ สาธุ สาธุ อุกาสะ   ข้าแต่องค์พระตรีมูรติที่ยิ่งใหญ่ 

ข้าพเจ้า (ชื่อ นามสกุล ที่อยู่)

กราบเบื้องบาทแด่องค์ท่านแล้ว

พระองค์เคยประทานพรแด่ทวยเทพทั้งหลาย

ผู้ปฏิบัติดี ผู้ปฏิบัติชอบทั้งหลาย

บัดนี้ ข้าพเจ้ามากราบเบื้องบาทแด่พระองค์ท่านแล้ว

จึงขอพรจากพระองค์ซึ่งประทานไว้ ณ บัดนี้

(...ขอพร...)

เตสัง อัมหากัง  พรใดอันประเสริฐจงมาเกิดแด่ข้าพเจ้า

ตุมหากัง  และจงบังเกิดแด่ผู้คุ้มครองข้าพเจ้า

ทีฆายุกา มหาเดชา มหาปัญญา มหาโภคา มหายะสา มหาลาภา

ปัญจวีสติภยันจะ ทวัตติง สะ ฉันนะวุฒิติโรคัญจะ โสระสะ

อุบัติอันตรายยัญจะ อัยยัญติกะ อันตรายยยัญจะพาหิระ

อันตรายยัญจะ วิระหิตะวา โหตุ ยาวะชีวัง พระวิสะตีติ

เครื่องสักการะ

  1. ธูปแดง 9 ดอก
  2. เทียนแดง 1 คู่
  3. ดอกกุหลาบแดง
  4. น้ำแดง
  5. นมแดง
  6. ผลไม้

ผลที่ได้จากการสักการะบูชา

ช่วยให้ประสบความสำเร็จด้านการงาน ความสุขในชีวิตคู่ ครอบครัวร่ำรวย รุ่งเรือง หากผู้บูชาเป็นผู้มีจิตกุศล ดำรงตนในศีลธรรม และขอพรในทางสุจริต ก็จะบังเกิดคุณให้ปรากฎ

คาถาบูชา หลวงพ่อดำ พร้อมคำแปล


พระคาถาบูชา หลวงพ่อดำ วัดบวรนิเวศวิหาร

ตั้งนโม 3 จบ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

อิติปิโส ภะคะวา กาละวัณณะ พุทธะปฏิมัง 
อะระหังสัมมา สัมพุทโธ วิชาจะระนะ สัมปันโน 
สุคะโต โลกะวิทู อนุตะโร ปุริสะธัมมะสารถิ
สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ 
(สวด 9 จบ)

คำแปล

ขอพุทธบารมี พุทธานุภาพ หลวงพ่อดำ
ที่ข้าพเจ้าได้บูชาแล้ว ณ บัดนี้ 
จงส่งผลให้ข้าพเจ้ามีอุดมมงคลอันสูงสุด 
จงชนะตลอด ปลอดภัยตลอด สมหวังดังที่ปรารถนา 
ร่ำรวยตลอด โชคดีตลอด 
ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ 
ทำกิจการใดๆ มีผู้อุปการะช่วยเหลือให้สำเร็จทุกประการ 
ไม่มีศัตรู ไม่มีหมู่มาร 
ถ้ามีอุปสรรคและปัญหาใดๆ ก็แก้ไขได้โดยเร็วพลัน 
ตลอดกาลนานเทอญ ...

คาถาบูชา พระไพรีพินาศ พร้อมคำแปล

พระไพรีพินาศ ที่ซุ้มเก๋ง วัดบวรนิเวศวิหาร



คำบูชา พระไพรีพินาศ

พระนิพนธ์ของ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
สุจิรัง ปะรินิพพุโต
คุเณหิ ธะระมาโนทานิ 
 ปาระมีหิ จะ ทิสสะติ
ยาวะชีวัง อะหัง พุทธัง
ธัมมัง สังฆัง สะระณัง คะโต
ปูเชมิ ระตะนัตตะยัง ธัมมัง จะรามิ โสตถินา ฯ


คำแปล คำบูชา พระไพรีพินาศ

แปลความหมายเป็นภาษาไทย โดย พระมหานายก (ฉลอง ชลิตกิจโจ)

สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ถึงเสด็จดับขันธปรินิพพานมาช้านานแล้ว
แต่ก็ยังทรงปรากฏดำรงอยู่ในบัดนี้
โดยพระคุณและพระบารมีทั้งหลาย
ข้าพพุทธเจ้า ถึงพระพุทธเจ้า 
พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
บูชาอยู่ซึ่งพระรัตนตรัย ขอประพฤติธรรม โดยสวัสดี เทอญ ฯ



บทสวดมนต์ พระคาถาชินบัญชร พร้อมคำแปล

ประวัติ


พระคาถาชินบัญชร เป็นคาถาศักสิทธิ์ที่ตกทอดมาจากลังกา โดย ท่านเจ้าประคุณสทมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ค้นพบในคัมภีร์โบราณ และได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ เนื้อหาของพระคาถาชินบัญชร เป็นการสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ (รายละเอียดอยู่ในคำแปล)

อานิสงส์ของการสวดพระคาถาชินบัญชร


ผู้ใดสวดภาวนาเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัย ตลอดจนคุณไสยต่างๆ ได้

สวดตอนไหน


สวดตอนไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก แต่แนะนำให้สวดก่อนนอน ก่อนที่จะสวดบทแผ่เมตตาครับ

วิธีการสวด


ให้เริ่มจากตั้งนโม 3 จบ จากนั้นให้นึกถึงหลวงปู่โต แล้วตั้งจิตกล่าวคำอธิษฐาน แล้วจึงเริ่มสวดบทพพระคาถาชินบัญชร โดยสวดได้ทั้งแบบเต็ม และแบบย่อ

ตั้งนโม 3 จบ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นึกถึงหลวงปู่โตแล้วตั้งจิตอธิษฐาน

ปัตตะกาโม ลาภะ ปัตตัง ธะนะ กาเม ลาภะ ธะนัง

อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตะวา

เริ่มบทพระคาถาชินบัญชร แบบเต็ม


  1. ชะยาสะนากะตา พุทธา       เชตวา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง           เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
  2. ตัณหังกะราทะโย พุทธา     อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง       มัตถะเกเต มุนิสสะรา.
  3. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง         พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง       อุเร สัพพะคุณากะโร.
  4. หะทะเย เม อะนุรุทโธ            สารีปุตโต จะทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง    โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
  5. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง       อาสุง อานันทะ ราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม      อุภาสุง วามะโสตะเก.
  6. เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง        สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน           โสภิโต มุนิปุงคะโว
  7. กุมาระกัสสโป เถโร              มะเหสี จิตตะ วาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง       ปะติฏฐาสิคุณากะโร.
  8. ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ          อุปาลี นันทะ สีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา         นะลาเต ติละกา มะมะ.
  9. เสสาสีติ มะหาเถรา              วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอเตสีติ มะหาเถรา               ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเตเชนะ           อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
  10. ระตะนัง ปุระโต อาสิ             ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ         วาเม อังคุลิมาละกัง
  11. ขันธะโมระปะริตตัญจะ          อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ           เสสา ปาการะสัณฐิตา
  12. ชินา นานาวะระสังยุตตา         สัตตัปปาการะ ลังกะตา
    วาตะปิตตาทะสัญชาตา          พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.
  13. อะเสสา วินะยัง ยันตุ             อะนันตะชินะ เตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ          สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
  14. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ             วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
    สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ        เต มะหาปุริสาสะภา.
  15. อิจเจวะมันโต           สุคุตโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ           ชิตุปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ         ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ         ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต   จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.

คำแปล

  1. พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์
    ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ
    อริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์
  2. มี ๒๘ พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกรเป็นต้น พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น
  3. ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า
    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ
    พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง
    พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก
  4. พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจพระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา
    พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง
  5. พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา
    พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย
  6. มุนีผู้ประเสริฐคือพระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง
    อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
  7. พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ
    มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ
  8. พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี
    พระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก
  9. ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส
    เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วน
    รุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่
  10. พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้าพระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา
    พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง
  11. พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร
    เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ
  12. อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้
    ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง
    สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น
  13. ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ
    เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม
    แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน
    อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น
    เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ
  14. ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น
    จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร
    ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล
  15. ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม
    จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า
    ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพ
    แห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ 

บทพระคาถาชินบัญชร แบบย่อ

ชินะปัญชะระ สัพปุริวาณัง รักขะตุสัพพะทา (สวด 10 จบ)

บทสวดมนต์ พระธาตุประจำปีเกิด (ปีนักษัตร)


Credit: ภาพประกอบจาก Internet

ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวคำบทสวดตามปีนักษัตรที่ท่านเกิด

ปีชวด (หนู)

นมัสการ พระธาตุศรีจอมทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่

คำบูชา

นะโมพุทธายะ นะมามิ ติโลกะโมลี โลหะกูเฏ ปะติฏฐิตัง ปูชิตัง สัพพะโลเกหิ กิตติมันตัง มะโนหะรัง

อะหังวันทามิ สัพพะทา อังคะวะเย ปุเรรัมเม โกวิลา รัคคะปัพพะเต สะหิเหมะคูหา คัพเภ ทักขิณะโมลี

ปีฉลู (วัว)

นมัสการ พระธาตุลำปางหลวง วัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง

คำบูชา

ยาปาตุภูตา อะตุลานุภาวาจีรัง ปะติฏฐาลัมภะ กัปปะปุเร เทเวนะ คุตตา อุตตุราภิทัยยา นะมามิ หันตัง วะระชินะธาตุง กุมาระกัสสะปะ นะลาตะธาตุโย เมฆิยะมะหาเถโร กะนะธาตุง ฐะเปติ มหาฐาเน เจติยัง ปูชิตา นะระเทเวหิ อะหังวันทามิ ธาตุโย

ปีขาล (เสือ)

นมัสการ พระธาตุช่อแฮ วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่

คำบูชา

โกเสยยะ ธะชัคคะ ปัพพะเต สัตตะมะโนรัมเม พุทธะ เกสาธาตุ ปะติฏฐิ อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส

ปีเถาะ (กระต่าย)

นมัสการ พระธาตุแช่แห้ง วัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน

คำบูชา

ยาธาตุภูตา อะตุลานุภาวาจีรัง ปะติฏฐิตา นันทะกัปปะเกปุเร เทเวนะ คุตตา วะระพุทธะธาตุง จิรัง วันทามิ หันตัง ชินะธาตุโย โสตะถาคะตัง อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ ทูระโต (สวด 3 จบ)

ปีมะโรง (งูใหญ่)

นมัสการ พระธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์และพระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่

คำบูชา

อิติปะวะระสิหิงโต อุตตะมะยะโสปิ เตโช ยัตถะ กัตถะ จิตโตโส สักกาโร อุปาโท สะกาละพุทธะ สาละธัง โชตะยันโตวะ ทีโป สุระนะเรหิ มะหิโต ธะระมาโนยะพุทโธติ นะมามิ สิหิงคะพิมพัง สุวัณณาภิรัมมัง ลังกาชาตัง โสภาภิโสภัง สะราภิกันตัง นะมามิหัง

ปีมะเส็ง (งูเล็ก)

นมัสการ พระธาตุเจดีย์เจ็ดยอด วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง จังหวัดเชียงใหม่

คำบูชา

ปะฐะมัง โพธิปัลลังกัง ทุติยัง อะนิมิสสะกัง ตะติยัง จังกะมะ เสฏฐัง จตุตะกัง ระตะนะฆะรัง ปัญจะมัง อะชะปาละนิโคธัง ฉัฏฐัง ราชะยะตะนัง สัตตะนัง มุจจะลิทัง อะหังวันทามิ ทูระโต

ปีมะเมีย (ม้า)

นมัสการ เจดีย์พระบรมธาตุ วัดพระบรมธาตุ จังหวัดตาก

คำบูชา

สัมมา สัมพุทธะ นะลาตะอัฏฐิ จะตุเกสาธาตุยา คันธะวะรังฐิตัง ปะระมาธาตุ เจติยัง 
อะหังวันทามิ สัพพะทา

ปีมะแม (แพะ)

นมัสการ พระธาตุดอยสุเทพ วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่

คำบูชา

สุวัณณะเจติยัง เกสาวะระมัตถะลุงคัง อรัญญะธาตุ สุเทเว สัพพะ ปูชิง ตัง นะวะเทเวหิ อะหัง วันทามิ ธาตุโย

ปีวอก (ลิง)

นมัสการ พระธาตุพนม วัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม

คำบูชา

ปุริมายะ ทักขิณายะ ปัจฉิมายะ อุตตะรายะ เหฏฐิมายะ อุปะริมายะ ทิสายะ กะปะณะศิริสะมิง ปันพะเตมะกัสสะเปนะ ฐาปิตัง พุทธะอุรังคธาตุง สิระสา นะมามิ เสตะฉัตตัง สุวัณณะระชะตัง ระตะนัง ปะณีตัง พุทธะ อุรังคะเจติยัง อะหังวันทามิ สัพพะทา

ปีระกา (ไก่)

นมัสการ พระธาตุหริภุญชัย วัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน

คำบูชา

สุวัณณะเจติยัง หะริภุญชะยัฐฐัง วะระโมลีธารัง อุรัฏฐิเสฏฐัง สะหะอังคุลิฏฐิง กัจจายะเนนา นิตะปัตตัปปะการัง สีเสนะ มัยหัง ปะระมามิธาตุง

ปีจอ (สุนัข)

นมัสการ พระธาตุเจดีย์วัดเกตการาม จังหวัดเชียงใหม่

คำบูชา

ตาวะติงสายะ ปุรัมเม เกสะจุฬามะณี สะรีระปัพพะตา ปูชิตา สัพพะเทวานัง ตังสิระสาธาตุ อุตตะมัง อะหังวันทามิ สัพพะทา

ปีกุน (หมู)

นมัสการ พระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย

คำบูชา

อิมัสสะมิง ภัทกะกัปเป จะตุพุทธา พุชูฌะติตะวา กะกุสะนูระ โกนาคะมะนะ กัสสะปะ โคตุมะราชะคะเห จะระติปิณะฑายะ มิถิลายะนะคะเรสิ จะรัตติ ปิณะฑายะ อะตะตีตา พุทธาเน อิมัสสะมิง ปัพพะตาคิริ ปะทะ กังนะสิทิตะวา เมตเตยยะ อะนาคะเต จะระติปิณะฑายะ ราชะคะเห อิมัสสะมิง ฐาเนนะสิทิสิริ สุภะปะวะ รังมะคะโล ตะโมลากะถามุนิราชะ สาตะระนะมามิหันตัง วะระชินะธาตุง อะหังวันทามิ สัพพะทานะตัง วะชิระธาตุโย อะระหังวันทามิ สัพพะทา

บทสวดมนต์ ตอนเช้า พร้อมคำแผ่เมตตา

ก่อนการสวดมนต์ตอนเช้า

การสวดมนต์ตอนเช้าเรียกได้ว่าเป็นอีกขึ้นหนึ่งของการสวดมนต์ก็ว่าได้ เพราะตอนเช้าเราต่างก็มีกิจวัตรประจำวันต่างๆ ที่ต้องทำมากมาย ก่อนที่จะออกไปเรียน หรือทำงาน นั่นหมายความว่า เรามีเวลาค่อนข้างจำกัด และเร่งรีบ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มสวดมนต์ตอนเช้า
  • ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ระยะเวลาที่ใช้

ประมาณ 10-15 นาที หลังจากที่สวดจบแล้วให้นั่งสมาธิอีกประมาณ 5 นาที

เริ่มต้น

กราบพระ 3 ครั้ง โดยให้ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

บทสวดมนต์: นมัสการบูชาพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ ฯ (กราบ)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (กล่าว 3 จบ)

บทสวดมนต์: พุทธานุสสติ

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, 

วิชชาจะระณะสัมปันโน, 

สุขโต โลกะวิทู, 

อนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ,

สัตถา เทวะมะนุสสานัง, 

พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)

บทสวดมนต์: สรรเสริญพระพุทธคุณ ทำนองสรภัญญะ

องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน

ตัดมูลกิเลศมาร บ่ มิหม่นมิหมองมัว

หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว

ราคี บ่ พันพัว สุวคนธกำจร

องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร

โปรดหมู่ประชากร มละโอฆะกันดาร

ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์

ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย

พร้อมเบ็ญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส

เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง

กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง

สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ

ข้าขอประณตน้อม ศิระเกล้าบังคมคุณ

สัมพุทธการุญ- ญภาพนั้นนิรันดรฯ (กราบ)

บทสวดมนต์: ธัมมานุสสติ

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,

สันทิฏฐิโก,

อกาลิโก,

เอหิปัสสิโก,

โอปะนะยิโก,

ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ

บทสวดมนต์: สรรเสริญพระธรรมคุณ ทำนองสรภัญญะ

ธรรมะคือคุณากร ส่วนชอบสาธร
ดุจดวงประทีปชัชวาล

แห่งองค์พระศาสดาจารย์ ส่องสัตว์สันดาน
สว่างกระจ่างใจมล 

ธรรมใดนับโดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล
และเก้ากับทั้งนฤพาน 

สมญาโลกอุดรพิสดาร อันลึกโอฬาร
พิสุทธิ์พิเศษสุกใส 

อีกธรรมต้นทางครรไล นามขนานขานไข
ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง 

คือทางดำเนินดุจคลอง ให้ล่วงลุปอง
ยังโลกอุดรโดยตรง 

ข้าขอโอนอ่อนอุตมงค์ นบธรรมจำนง
ด้วยจิตและกายวาจา (กราบ)

บทสวดมนต์: สังฆานุสสติ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, 

อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ 

ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, 

สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ 

ยะทิทัง, จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐปุริสปุคคะลา, 

เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ

อาหุเนยโย, ปาหุเนยโย, 

ทักขิเนยโย, อัญชะลีกะระณีโย, 

อนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)

บทสวดมนต์: สรรเสริญพระสังฆคุณ ทำนองสรภัญญะ

สงฆ์ใดสาวกศาสดา รับปฏิบัติมา
แต่องค์สมเด็จภควันต์

เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร- ลุทางที่อัน
ระงับและดับทุกข์ภัย

โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร ปัญญาผ่องใส
สะอาดและปราศมัวหมอง

เหินห่างทางข้าศึกปอง บ่ มิลำพอง
ด้วยกายและวาจาใจ

เป็นเนื้อนาบุญอันไพ- ศาลแด่โลกัย
และเกิดพิบูลย์พูนผล

สมญาเอารสทศพล มีคุณอนนต์
อเนกจะนับเหลือตรา

ข้าขอนบหมู่พระศรา- พกทรงคุณา-
นุคุณประดุจรำพัน

ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์ พระไตรรัตน์อัน
อุดมดิเรกนิรัตศัย

จงช่วยขจัดโพยภัย อันตรายใดใด
จงดับและกลับเสื่อมศูนย์ฯ (กราบ)

บทสวดมนต์ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

สัพเพ สัตตา 

สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ 

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพะยาปัชฌา โหนตุ 

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนตุ

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ 

จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

บทสวดมนต์ ก่อนนอน พร้อมคำแผ่เมตตา

ระยะเวลาที่ใช้

จะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที หลังจากที่สวดมนต์เสร็จแล้ว ให้นั่งสมาธิประมาณ 5 นาที

เริ่มต้น

กราบพระ 3 ครั้ง โดยให้ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

บทสวดมนต์: นมัสการบูชาพระรัตนตรัย

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ (กล่าว 3 จบ)

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ ฯ (กราบ)

บทสวดมนต์: อาราธนาศีล 5

มะยัง ภันเต,               วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปัญจะ สีลานิ ยาจามิ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปัญจะ สีลานิ ยาจามิ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต, วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ, ปัญจะ สีลานิ ยาจามิ

บทสวดมนต์: ไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณังคัจฉามิ

บทสวดมนต์: สมาทานศีล 5

ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

อทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

บทสวดมนต์ อธิษฐานรักษาศีล 5

ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานว่า ต่อแต่นี้ไปข้าพเจ้าจะขอรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ดังเดิม

บทสวดมนต์ ศีล 5

อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (กล่าว 3 จบ)

บทสวดมนต์ แผ่เมตตาแก่ตนเอง

กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

อะหัง สุขิโต โหมิ

ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข

นิททุกโข โหมิ

ปราศจากความทุกข์

อะเวโร โหมิ

ปราศจากเวร

อัพยาปัชโฌ โหมิ

ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง

อะนีโฆ โหมิ

ปราศจากความทุกข์การทุกข์ใจ

สุขี อัตตานัง

ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกภัยทั้งสิ้นเถิด

บทสวดมนต์ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

สัพเพ สัตตา 

สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ 

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพะยาปัชฌา โหนตุ 

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนตุ

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ 

จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด


บทสวดมนต์ บทแผ่ส่วนกุศล

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่บิดามารดาของข้าพเจ้า ขอให้บิดามารดาของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของรข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา

ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ.


หลังสวดมนต์เสร็จ

ให้นั่งสมาธิประมาณ 5 นาที โดยกำหนดลมหายใจเข้าออก ช้าๆ ด้วยความมีสติ เมื่อเสร็จแล้วจึงเข้านอนได้

อานิสงส์ของการสวดมนต์

การสวดมนต์

หลายคนมักสงสัยกันว่า ภาษาบาลีที่เราสวดไปแล้วไม่เข้าใจ แล้วเราสวดมนต์ไปทำไม หรือเพียงสวดให้รู้ว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของการนับถือศาสนาพุทธ ? วันนี้เราจะมาเล่าถึง เหตุผล และอานิสงส์ที่ได้รับจากการสวดมนต์กัน

อานิสงส์ของสวดมนต์: ทำไมต้องสวดมนต์ ?

1. เป็นการฝึกจิต และฝึกสมาธิ

การสวดมนต์ด้วยจิตที่แน่วแน่จดจ่อ จะช่วยในการฝึกสมาธิได้ในขณะที่กำลังสวดมนต์ เมื่อเราเกิดสมาธิแล้วจิตใจเราจะสงบ เมื่อจิตสงบแล้วก็จะเกิดสติและปัญญาตามมา 

2. ช่วยลดความทุกข์ นอนหลับสบาย และ ทำงานมีประสิทธิภาพ

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า การสวดมนต์ช่วยให้เกิดสติและปัญญาตามมา ความทุกข์ก็จะค่อยๆ ลดลง จึงทำให้นอนหลับสนิท ตื่นเช้าขึ้นมาสดชื่น และทำงานได้มีประสิทธิภาพ เพราะผลจากการที่เรามีสติและปัญญานั่นเอง

3. เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติธรรมในขั้นอื่นๆ

เพราะการสวดมนต์เป็นการเริ่มต้นของการฝึกจิต และฝึกสมาธิ ทำให้จิตใจของเราสงบ ไม่ให้ก้าวเข้าไปสู่ในสิ่งที่ไม่ดี จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติธรรมในขั้นอื่นๆ อาทิเช่น การเดินจงกรม การนั่งสมาธิ เป็นต้น

สวดมนต์ตอนไหนดีที่สุด ?

สวดมนต์ตอนเช้า หรือสวดมนต์ตอนก่อนนอน หรือจะเวลาไหนก็ได้ แล้วแต่ความสะดวกดีกว่า เพราะหลักสำคัญของการสวดมนต์คือ การฝึกจิต และฝึกสมาธิ

หลังสวดมนต์ควรทำอะไร ?

แนะนำให้นั่งสมาธิ เพื่อทำให้จิตใจสงบยิ่งขึ้น และทำให้เราทำสิ่งที่จะทำหลังจากนี้ได้ดียิ่งขึ้น (สวดตอนเช้า จะช่วยทำให้เราทำงานได้ดี สวดตอนกลางคืน จะช่วยทำให้เรานอนหลับสบาย)

ข้อควรระวังจากการสวดมนต์

บางท่านคิดว่าการสวดมนต์เป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ ช่วยบันดาลให้ได้รับสิ่งนั้นสิ่งนี้ จึงใช้ชีวิตด้วยความประมาท อยากให้คิดว่า การสวดมนต์เป็นเพียงแต่ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจ และช่วยให้เรามีสติ ไม่ตกอยู่ในความประมาท เท่านี้ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ดีแล้วครับ